Tuesday, December 1, 2020

ข้อเท็จจริงของความถี่ 435-438 MHz

 ข้อเท็จจริงของความถี่ 435-438 MHz

1. สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ได้กำหนดให้ความถี่ 430-440 MHz ให้กับกิจการวิทยุสมัครเล่น เป็นกิจการรอง ในประเทศที่อยู่ในภูมิภาคที่ 3 และประเทศไทยอยู่ในภูมิภาคที่ 3

(Amateur ใช้ตัวพิมพ์เล็กหมายถึงเป็นกิจการรอง)
ที่มา http://life.itu.int/radioclub/rr/uhfband.htm

2. ในประเทศไทย กสทช. ได้กำหนดความถี่ ความถี่ 430-440 MHz ให้กับกิจการวิทยุสมัครเล่น เป็นกิจการรอง เช่นเดียวกับที่ ITU ได้กำหนด


(กิจการวิทยุสมัครเล่นไม่ขีดเส้นใต้หมายถึงกิจการรองในตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ)
ที่มา: ราชกิจานุเบกษา http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/220/52.PDF

3. ความหมายของกิจการหลัก และกิจการรองตาม ตามคำจำกัดความในตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ

"สถานีในกิจการรองต้องไม่ก่อให้เกิดการรบกวนอย่างรุนแรงต่อสถานีในกิจการหลัก และไม่สามารถร้องขอการคุ้มครองการรบกวนจากสถานีในกิจการหลัก"

4. ความหมายของการรบกวนอย่างรุนแรง

การรบกวนอย่างรุนแรง หมายถึง การรบกวนที่เป็นอันตรายต่อการทำงานของกิจการวิทยุนำทาง
หรือ กิจการเพื่อความปลอดภัย หรือ การรบกวนที่ทำให้เกิดผลเสียอย่างร้ายแรง หรือขัดขวาง หรือ
ขัดจังหวะเป็นช่วงๆ ต่อการดำเนินกิจการต่างๆ ตามข้อบังคับวิทยุ

5. ความถี่ 435-438 MHz อยู่ในช่วงความถี่เดียวกับ 430-440 MHz และเป็นช่วงความถี่สำหรับการติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียมวิทยุสมัครเล่น ในฝั่งขาขึ้น (Uplink) เป็นส่วนมาก เนื่องจากมีสัญญาณรบกวนจากภาคพื้นดินต่ำกว่าย่านความถี่ VHF

6. หากนักวิทยุสมัครเล่น ได้รับอนุญาตให้ใช้งานภาคส่ง 435-438 MHz สำหรับการติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม นั่นหมายความเรานักวิทยุสมัครเล่นจะใช้งานความถี่ร่วมกันกิจการอื่น และนักวิทยุสมัครเล่นต้องระมัดระวังการใช้งานเป็นอย่างมาก ที่จะไม่ทำให้เกิดการรบกวนกับสถานีที่ใช้งานร่วมกันอยู่และเป็นกิจการหลัก

7. หากเกิดการรบกวนจากการใช้งานของนักวิทยุสมัครเล่น และ กสทช. ได้รับแจ้งการรบกวนนั้น และแจ้งต่อมายังนักวิทยุสมัครเล่นที่ทำให้เกิดการรบกวน นักวิทยุสมัครเล่นจะต้องหยุดการใช้งานในทันที โดยหากประสงค์จะใช้งานอีก จะต้องหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนไปยังสถานีในกิจการหลักอีก

"เมื่อเรารักษาสิทธิอันพึงมีของนักวิทยุสมัครเล่น เราจึงต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง และเคารพในสิทธิของคนอื่นเช่นกัน"



No comments:

Post a Comment